
ไหน! ใครเพิ่งจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวยกมือขึ้นให้ดูหน่อยยย ไม่ว่าจะย้ายออกไปอยู่หอ คอนโด คนเดียว หรือจะไปเรียนต่อต่างประเทศครั้งแรก และไม่เคยมีประสบการณ์ ซักผ้า เหมือนเรา ก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะเราเข้าใจจริงๆ ว่าการ ซักผ้า ครั้งแรกเองมันน่ากลัวแค่ไหน ถึงมีเครื่องซักผ้าก็เถอะ กลัวทำเสื้อผ้าที่เรารักพังมากก
วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำ How To ซักผ้า แบบเบสิคสุด ๆ เหมือนสอนเด็ก เพราะเราเชื่อว่าใคร ๆ หลายคนไม่เคยซักเอง เพราะแม่ทำให้ หรือแม่บ้าน เนื่องจากเรามาเรียนต่างประเทศเมื่อต้นปี และต้องซักเองเป็นครั้งแรก ขอบอกว่า bad experience และเกิดเหตุเยอะมาก 555
Shopping for the right products
1. Pre-wash Cleaning
อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้ถ้ามีคราบเปื้อนที่ดูเหมือนจะไม่ออกง่ายๆด้วยการซักปกติ อย่าง กาแฟ ซีอิ้ว อะไรแบบนี้ ที่ต้องแต้มๆก่อนใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่นางจะแนะนำให้อย่าทิ้งจนแห้ง ถ้ายังไม่เข้าเครื่องก็ให้เอาน้ำล้างออก หรือไม่ก็ให้ทาบนรอยเปื้อนก่อนที่จะเข้าเครื่อง เพราะถ้าปล่อยให้มันแห้ง มันจะทิ้งเป็นคราบนะจ้ะ
2. Laundry Powder/Liquid
อันนี้คือแฟ้บนี้เอง มีทั้งแบบผง หรือ powder และแบบน้ำ หรือ liquid ความแตกต่างคือ แบบน้ำจะใช้หมดเร็วกว่า ขวดเป็น plastic เลยไม่ค่อยดีต่อการย่อยสลาย และหมดเร็วกว่า พอปริมาณที่ใช้คือเยอะกว่าใช้แบบผง แต่ข้อดีคือกลิ่นแรงติดทนเสื้อนาน
3. Fabric Softener/ Concentrate
อันนี้เราเคยข้ามไป เพราะคิดว่าไม่เห็นต้องมีเลย แต่ถ้าเราเป็นคนมีกลิ่นตัว หรือใช้เครื่องซักผ้ารวมกับคนอื่น เป็น communal และไม่ใช่ private ก็คือควรมีอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยเรื่องกลิ่นที่บางครั้งพอเราใช้เครื่องเดียวกันกับคนอื่น มันจะมีกลิ่นเสื้อผ้าคนอื่นติดมา คือแบบอิ้วมากก softner หรือน้ำยาปรับผ้านุ่มทั่วไป ที่มีขายเป็นลิตรๆเนี้ย เราอย่าเพิ่งงกและซื้อมาเพราะคิดว่าคุ้มนะ จริงๆที่มันขายได้ถูกกว่าก็เพราะมันจางกว่านั่นเอง ทำให้ต้องใช้เยอะกว่าเพื่อให้ได้กลิ่นเท่ากัน และทำให้เครื่องต้องใช้พลังงานเยอะ กลายเป็นใส่เยอะไป ฟองเต็มแต่กลิ่นไม่มา ซักไม่แห้งก็มีนะ เราเลยชอบใช้ concentrate ใช้น้อยกลิ่นแรง แพงหน่อย แต่ถ้ารอช่วง sale ได้ก็ราคาพอๆกันเลยย
4. Antibacterial Sanitizer
สำหรับบางคนที่ไม่รู้ แฟ้บที่เราใช้กันไม่ได้ช่วยฆ่าเชื้อโรคนะจ้ะ นอกจากจะใช้น้ำร้อน แต่เพื่อความแน่ใจ ให้อย่าลืมหาพวก antibacterial laundry santizier แบบนี้ มีทั้งแบบยี่ห้อของ dettol ด้วยใช้นางผสมกับน้ำยาปรับผ้านุ่มได้เลย
5. Dryer Sheets
Dryer Sheets คือเห็นฝรั่งใช้เยอะ มันคือกระดาษบางๆ นี้มีไว้สำหรับดูดซับความชื้นในการซักผ้า ทำให้ผ้าแห้ง และนุ่มกว่าเดิม เพิ่มกลิ่นหอม และทำให้ไม่พันกันและเกิดไฟฟ้าสถิต แต่ส่วนตัวเราว่าอันนี้ไม่สำคัญ และแอบเปลืองเงิน ที่ซื้อมาเพราะอยากรู้ว่ามันช่วยจริงไหม ตกลงคือไม่เห็นความแตกต่าง ขนาดตอนแรกนึกว่าเพราะใช้น้อยไป อุส่าใส่ไป 2 แผ่นก็ไม่แตกต่างจ้า
Photo: CS Monitor
Photo: YouTube
6. Dryer Balls
สำหรับตัวนี้เราว่าช่วยนิดหนึงให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นตอนอยู่ใน dryer เราพอรู้ว่ามีแบบสำหรับใส่ในเครื่องซักผ้าไม่ให้ผ้าพันกัน แต่เราไม่มีอะ เราซื้อมาหลักๆเลยเพราะเสื้อ puffy jacket เราไปซักแห้งมาแล้วคือหมดความ puffy เลย เค้าเลยบอกว่าวีธีที่จะให้มันกลับมาฟูๆเหมือนเดิมคือใส่ในตู้ dryer แบบโหมดไม่มี heat และใส่ dryer ball อันนี้ ไม่ก็ลูก tennis ให้มันตี jacket ให้ฟู
STEP 1: ลองสี
ก่อนอื่นเลย ใครที่ซื้อเสื้อผ้ามาใหม่ ต้องลองสีก่อนว่ามันจะไม่ตก ไปทำให้ตัวอื่นพัง (เหมือนเรา!) การลองสีคือง่าย และเชื่อเถอะว่าคุ้มค่ามาก แค่แช่ไว้ในน้ำ เอานานเท่าที่นานได้ ถ้าไม่รีบก็ข้ามคืนเลย ดูว่าน้ำสีแย่มากไหม มีนิดๆหน่อยไม่เป็นไร แต่ถ้าเอาเสื้อสีมาถู่ๆทิชชู่และติดนี้คือไม่ผ่านนะจ้พ
STEP 2: แยกผ้า
คนชอบบอกให้แยกผ้าตามสี แต่เพราะเรายอดเครื่อง ซักผ้า เราไม่อยากแยกเพราะเสียดายเงินอะ ที่ออสซักครั้งละ 4 ดอล หรือ 84 บาท!! บ้าไปแล้ว ถ้าต้องซักแยกเป็น 2 ชุด คือ 168 บาท ยังไม่ได้รวมราคาปั่นแห้งอีก 3-4 ดอลด้วยนะ ทำแบบนี้ทุกอาทิตย์คือเป็นพัน เราเลยใช้วิธีรวมเสื้อผ้าเก่าที่เรารู้ว่าสีไม่ตกให้อยู่ด้วยกันหมด
LAUNDRY BAG (ถุงถนอมผ้า)
สำคัญมากกก ถ้าจะเอาทุกอย่างมารวมกันอย่างเรา ไม่แยกความ delicate ซักกางเกงในแต่กับกางเกงในด้วยกัน เพราะอยู่คนเดียวงี้ ไม่ได้มีเยอะพอ 1 load ขนาดนั้น มันจะมีความละเอียดของ laundry bag หรือถุงซักผ้าด้วยนะ ยิ่งลำเอียดคือสำหรับผ้าที่บอบบางมากๆ เราซื้อ shopee ถูกๆ คือดีงาม มนัจะมีแบบหยาบ และแบบละเอียด แบบหยาบคือพวกถุงเท้า ที่แค่ไม่อยากให้มันอยู่มั่วกัน และหาอีกข้างไม่เจอ แต่ก็ไม่ได้บอบบางอะไร
STEP 3: Pre-wash รอยเปื้อน
ฉีดไปเลยก่อนเข้าเครื่อง และปล่อยไว้ แต่อย่าให้จนแห้งนะ เดียวเป็นคราบ
STEP 4: ใช้เครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าสมัยนี้มันมีหลายแบบ หลาย option มากเว่อร์ งงตลอดทุกครั้งที่เจออันใหม่ แต่ของที่ออสเราเป็นรุ่น basic คือไม่มีให้เลือกอะไรนอกจากอุณหภูมิของน้ำ ซึ่งตอนแรกไม่รู้เลยว่ามันมีความแตกต่างกันยังไงกับผ้าบ้าง แต่ตอนนี้พอเข้าใจละ เลยอยากมาบอกกันน
EACH COMPARTMENT IN THE WASHING MACHINE:
สำหรับเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่ มันจะบอกนะว่าแต่ละ comparment คือไว้สำหรับ product อะไร เช่น 1) Detergent (แฟ้บ จะน้ำจะผงก็ได้) 2) Softener 3) Bleach (ฟอกขาว) อะไรแบบนี้ แต่ถ้าไม่มี ส่วนใหญ่ก็คืออันที่ใหญ่สุดคือสำหรับแฟ้บ ส่วน 2 กับ 3 จะใส่ผิดใส่ถูกก็ไม่เป็นไร
เพื่อนเราเคยบอกว่าจริงๆ แฟ้บอะใส่เข้าไผพร้อมกับเสื้อได้เลย และน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือ softner กับ antibacterial sanitzer ค่อยไปใส่ใน comaprtment เอา เพราะเค้าห้ามโดนเสื้อโดนตรง ถ้าเราใส่ compartment มันจะผสมกับน้ำให้นั่นเอง
TEMPERATURE:
เรื่องของอุณหภูมิคือเกี่ยวกับความสกปรก และสีของเสื้อผ้าเฉยๆ อย่างน้ำเย็นเค้าจะเอาไว้ใช้สำหรับถ้าเสื้อผ้าเป็นสีเยอะๆ เพราะน้ำเย็นทำให้เสื้อผ้าสีไม่ตก และไม่ทำลายพวกเสื้อผ้าที่มัน delicate หรือที่มีความบอบบาง อย่างกางเกงใน เสื้อใน อะไรอีกอะ พวก sweater ที่ถ้าโดนทำร้อนๆและจะเป็นขุยๆไรงี้ แต่ถ้าใช้ laundry bag แล้วเราว่าใส่อะไรก็ใส่ไปเถอะ .___.
น้ำเย็น COLD (DELICATE/GENTLE/HAND-WASH)
Save energy ที่สุดเพราะเร็วสุดในการล้าง บอบบางกับผ้า และไม่ทำให้สีตกง่าย
น้ำอุ่น MEDIUM (PERM-PRESS)
สำหรับหมวด Perm Press เราเพิ่งเข้าใจว่ามันคือน้ำอุ่นที่จะใช้น้ำเย็นล้างอีกที เพื่อไม่ให้เป็นรอยยับ เหมาะสำหรับเสื้อที่เป็น synthetic fabrics เราจะรู้ได้ไงว่าเป็น synthetic fabrics ก็ลองซักปกติดู อันไหนยับแบบทุเรศาก รับไม่ได้ อันนั้นละ555 หรืออ่านป้ายก็ได้นะ
น้ำร้อน HOT (HEAVY DUTY/SANITIZE)
ทำความสะอาดแบบล้ำลึก ฆ่าเชื้อโรค ดีกับพวกเสื้อผ้าที่มีรอยเปื้อนเยอะๆ โดนโคลน โดนขี้ดินมาอะไรมาแบบนี้เป็นต้น สำหรับเสื้อผ้าสำหรับเด็กๆที่ชอบเลอะเทอะนั่นเอง
TYPES:
นอกจากอุณหภูมิ บางเครื่องก็ไฮโว มีหมวดเพิ่มให้ปวดหัวอีก เช่น
COLORS/DARKS and WHITES
ก็ตามชื่อเลย อันนี้เราว่าจะดีกับคนที่มีเครื่องเป็นของตัวเองและไม่ต้องมานั่งห่วงว่า load ชั้นคุ้มไหมเหมือนเรา555 เลยแยกสีผ้าได้ตามความชอบ
QUICK WASH/SUPER SPEED
เราว่าอันนี้ดีมาก สำหรับคนที่แบบไม่ได้มีเสื้อผ้าสกปรกขนาดนั้น และไม่ได้ไปทำอะไร outdoor อยู่ในบ้าน ไม่ได้มีกลิ่นตัวแรง หรือเหงื่อออกเยอะ หรือเป็นคนที่ศักเสื้อผ้สบ่อยเป็นปกติอยู่แล้ว ใส่ครั้งเดียวไรงี้ บางทีเครื่องซักผ้ามันก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ไม่รู้จะซักอะไรนักหนา อันนี้ก็จะเร็วๆ และไม่ deep cleaning เหมือน cycle ปกติ หรือบางคนลืมเสื้อผ้าไว้ในเครื่องและลืมเอาออกมา ก็สามารถกดหมวดนี้ให้นางซักเร็วๆอีกที จะได้ไม่มีกลิ่นหมักเหม็นๆ
CYCLE:
SOAK
แช่น้ำนั่นเอง คือตอนนางเอาน้ำมา และประสมพวกน้ำยาที่เราใส่ไปใน compartment ต่างๆ
RINSE
อันนี้คือเอาน้ำเปล่ามาล้างฟอง หรือ rinse เพื่อชำระล้าง product ต่างๆออก เหมาะมากถ้าเสื้อผ้าที่ซักเสร็จออกมายังมีฟอง หรือดูไม่สะอาด
DRAIN
ตอนเครื่องปล่อยให้เอาน้ำออก และค่อย spin เพื่อให้แห้งจริงๆ เหมือนบิดผ้าให้ เหมาะมากถ้าเสื้อผ้าดูสะอาดแล้วแต่ยังยังดูมีน้ำขังอยู่
SPIN
หลังจากเอาน้ำออกใน drain แล้ว cycle นี้คือตอนที่เครื่องดังที่สุด ตอนที่นางหมุนแรงๆๆๆๆ เพื่อให้ผ้าแห้งหมาดๆ หมือนบิดผ้าให้ เหมาะสำหรับตอนที่ไม่มีน้ำขังแล้ว แต่เสื้อไม่แห้ง จับและยังเปียก มีน้ำบิดออกมาเต็ม
STEP 5: เครื่องปั่นแห้ง
HIGH HEAT
FOR: เราว่าดีสุด คือสะอาด ฆ่าเชื้อโรคแน่ๆ และไม่เหม็นอับชื่น แต่ทำให้ผ้า texture และ quality แย่ลงเร็ว สีจาง อาจจะเสื้อหดได้
NO HEAT (AIR FLUFF)
FOR: อันนี้เราใช้สำหรับการ re-puff puffer jacket หรือ jacket ที่มีขนเป็ด โดยที่บอกข้างบนว่าใช้ dryer balls/tennis balls เข้าไปด้วย เราว่านอกจากใช้สำหรับอันนี้ ก็อาจจะใช้สำหรับเสื้อผ้าที่บอบบาง เพราะมันไม่มีความร้อน แต่คงใช้เวลานานมากความจะแห้ง
STEP 6: รีดผ้า
ตอนแรกเราไม่คิดว่าต้องรีดเอง อุส่าจะซื้อแบบไอน้ำ (Steamer) แต่พี่เลี้ยงบอกว่ามันดีไม่เท่ารีดผ้า เราเลยต้องลองซื้อมาเล่นๆดู เราใช้ youtube video สอนเอา ไม่แย่เลย555 สนุกดี และรู้สึกไม่อายตอนใส่เสื้อ เพราะตอนที่ไม่รีด คือน่าเกลียดมากจริงๆ .___. และเสื้อ shirt คือยับมาก ดูไม่ smart เลยอะ ควรแก่การรัดผ้าอย่างยิ่ง ลองไปหาเรียนรู้กัน มีหลายคลิปมากก
EXTRA: ถ้าสีตกทำไง!??
แกเราเคยสีตกทั้งเซท จะร้องไห้ เสื้อขาวเราฟ้าหมดเลยจ้าาา ไม่รู้เห็นไหม นี้เพราะเราเอา jeans uniqlo ใหม่ไปใส่ใน load เดียวกับเสื้ออื่นๆในเครื่องซักผ้า โดยไม่ลองสีก่อน
เครียดมาก ทิ้งไม่ลงอะบอกเลย ก็เลยวิ่งไปซื้อของมาใช้โดยด่วน ใช้น้ำส้มสายชู อย่างเดียวไม่ช่วย ได้ยินว่าอาจจะต้องใช้ baking powder แต่ราคาเริ่มแพง เราเลยใช้ bleach หรือน้ำยาฟอกขาวไปเลย เพราะเสื้อเราที่เป็นสีขาวเท่านั้นที่กลายเป็นสีฟ้า เราเลยใช้ฟอกขาวได้
น้ําส้มสายชู: ไม่ผ่าน ❎
น้ำยาฟอกขาว: ผ่าน ✅
ตอนเอาออกมาจากเครื่องก็เริ่มเห็นผลและว่าสีเริ่มขาว ก็เลยแช่ไว้นานๆไปเลย อีกวันตื่นมาขาวเหมือนเดิม ดีใจมากก
EXTRA: เสื้อผ้าออกมีขุยๆเยอะมาก ทำไงดี
Credit to: Chillpainai
อันนี้เพิ่งเป็นเลย รำคาญสุด ให้มาใช้เทปใสก็นานไป และบางทีอันใหญ่ๆไม่ออกด้วย เราเลยหาวิธีอื่นและเจอจ้า เราใช้ที่โกนขนขาของเรา หรือ razor ดีๆทั่วไปแต่พอทำและเห็นขนๆออกมาก็เชื่อเลยย ลองไปทำดู สนุกดี 555
หวะงว่าจะช่วยทุกคนเข้าใจเรื่องซักผ้าได้เพิ่มขึ้น มีไอเดียอะไรมาแชร์ก็แชร์กันได้ใยคอมเม้นข้างล่างนะ !! ตอนแรกก็ว่าจะเขียนไม่เยอะ เอาแบบสั้นแต่ได้ใจความ แต่กลายเป็นรู้สึกเหมือนอยากอธิบายแต่ละอุณหภูมิ กับ หมวดต่างๆ เพราะตอนแรกที่เราเห็นคือกลัว และน่าเกรงขามมากจ้า แต่จริงๆไม่มีอะไรเลย ถ้าเราเข้าใจเสื้อผ้าเราว่าสีไม่ตก ใช้อะไรก็เหมือนกัน แค่ต้องระวังเสื้อผ้าใหม่ๆเฉยๆ