
เมื่อซัมเมอร์ 2015 เราได้ไปเที่ยวยุโรปกับเพื่อน ๆ ที่มหาลัยเพราะได้โอกาสไปเรียนภาษาเป็นเวลาหนึงเดือนที่สเปนค่ะ เราไปเรียนอยู่ที่เมือง Santiago de Compostela ทางตอนเหนือ และได้แวะไปเที่ยว ปอร์โต้ ที่โปรตุเกส, อา คอรุนญ่า (A Coruña) ที่อยู่ตอนเหนือของสเปน, มาดริด, เซโกเวีย, บาร์เซโลน่า ก่อนบอกออกจากสเปนไปปารีส และจบทริปที่อัมสเตอร์ดัมค่ะ
เป็นครั้งแรกที่เที่ยวยุโรปเองโดยไม่ได้ไปกับผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ บอกเลยว่าครบรสจริง ๆ! คือตอนนั้นเครียดมาก แต่กลับมาคิดแล้วก็สนุกสนาน เป็นสีสันชีวิตที่จะเล่าไม่มีวันเบื่อ วันนี้เลยอยากมาแชร์ที่ ๆ ไปเที่ยวและประสบการณ์ของผู้หญิงติดสบายที่ต้องประหยักเพราะไปเที่ยวคนเดียวเป็นครั้งแรกค่ะ จริง ๆ กลุ่มเพื่อนเรามี 6 คนที่ไป แต่เราแยกออกมากับเพื่อนอีกคนเพราะต้องการจะเก็บที่เที่ยวให้เยอะที่สุด ไม่ค่อยเป็นสายช้อปหรือกินสักเท่าไหร่ เน้นที่เที่ยวมากกว่าค่ะ
MADRID
เมืองมาดริดเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสเปน อยู่ใจกลางประเทศ เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศในสหภาพยุโรป โดยมีลอนดอน และเบอร์ลินเป็นอันดับที่ 1 และ 2
ทริปนี้จริง ๆ เราไปเมดริด 4 วัน 3 คืนค่ะ แต่วันแรกถึงก็ดึกแล้ว ส่วนวันสุดท้ายก็ต้องออกเร็วไปขึ้นเครื่องบินไปบาร์เซโลน่าต่อ ทำให้มีวันเที่ยวจริง ๆ 2 วันเต็ม อีกวันเราเลือกที่จะนั่งรถบัสไป Segovia เช้าเย็นกลับ เพราะเอาจริง ๆ มาดริดเที่ยว 1 วันเต็ม ๆ ก็ครบทุกอย่างที่สำคัญ ๆ แล้วค่ะ ที่ ๆ เราจะไปจะอยู่ใกล้ ๆ กันหมดเลย ที่พักของเราอยู่ใจกลางเมืองเลยคือ Puerta de Sol ทำให้เที่ยวสะดวก เพียงไปรอบ ๆ เท่านั้นค่ะ เราเป็นคนชอบเน้นเที่ยว ไม่เน้นช้อปหรือกินนะคะ และนี้คือที่เที่ยวที่เราไปรวบรวมมาว่า มามาดริด ต้องไปให้ได้!
อันนี้เป็น GUIDE ที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ สามารถทำได้ใน google map จริงๆ จะเดินตั้งแต่ตั้นจนจบเลยก็ได้ แต่เรามีนั่งรถไฟใต้ดินบ้าง ใน 1 วัน ออกจากบ้านตั้งแต่ 9 โมงเช้า ไปเที่ยวได้หมดครบ 13 ที่เลยค่ะ เหนื่อยมากกก แต่จบทีเดียวภายในวันเดียวเท่านั้น คุ้มค่าาา

1. Plaza de España
เริ่มต้นจากที่โรงแรม เราก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลง Plaza de España เป็นอันดับแรกกันเลย ด้วยความที่ไม่ได้มาช้อป เราก็ไปดูอนุสาวรีย์กันเลย ไม่ว่าจะออกทางออกไหนก็ต้องเห็น Monumento a Cervantes ค่ะ เจ้าตัวอนุสาวรีย์แห่งนี้ เป็นการสรรเสริญ Miguel de Cervantes หรือนักเขียนชื่อดังของสเปน ซึ่งงานเขียนที่สร้างชื่อให้เขาคือ Don Quixote หรือ “ดอนกิโฆเต้ แห่งลามันช่า ขุนนางต่ำศักดิ์นักฝัน” ในภาษาไทยนั้นเอง ที่เราไปที่นี้ก็เพราะว่าเป็นสวนที่อยู่ใจกลางเมือง และสามารถเดินไปพระราชวังหลวงได้ด้วยเท้า





2. Royal Palace of Madrid
ถึงแล้วจ้าา พระราชวังหลวงหรือ Royal Palace of Madrid บางคนอาจจะเห็นแค่ข้างหน้า แต่เพราะเราเดินมาจาก Plaza de España เราเลยได้เดินผ่านสวนที่อยู่ข้างหลังด้วยย แนะนำให้เข้านะคะ เอาจริง ๆ เราแทบจะไม่ได้ดูอะไรข้างในเท่าไหร่ มันไม่ได้อลังอย่างพระราชวังแวร์ซายที่ฝรั่งเศสอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่จ่ายตังเข้าก็จะถ่ายข้างหน้าไม่ได้นะคะ จะมีรั่วมาปิดกั้น ถ่ายไม่สวย ค่าเข้าอยู่ที่ 11 Euro ค่ะ


3. Almudena Cathedral
อันนี้จะเป็นโบสถ์สำคัญของเมืองมาดริด ถือเป็นโบสถ์หลวงของราชวงศ์ มกุฏราชกุมารก็แต่งงานที่นี่ มันอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าพระราชวังหลวงเลยค่ะ ยังไงก็ต้องเจอ ต้องเดินผ่านแน่นอน แต่เราถ่ายแค่ข้างนอก ไม่ได้เข้านะคะ

4. Plaza de la Villa
เดินไปนิดหน่อยก็เป็นทางเดินมีตึกทั้งสองข้างทางแบบนี้ค่ะ เรากำลังจะเดินไปตลาด San Miguel แต่ระหว่างทางจะผ่าน Plaza de la Villa ที่ LonelyPlanet ได้ยกย่องว่าเป็นลานกว้างสาธารณะที่สวยมาก ๆ เป็นอันดับต้น ๆ ของมาดริด เพราะตัวลานถูกล้อมไปด้วยตึกที่สร้างมาตั้งแต่ปีศตวรรษที่ 17 ในแบบสไตล์ barroco madrileño หรือสไตลบารอคแบบมาดริด ที่ถูกรักษาไว้อย่างดี ตึกเหล่านี้เมื่อก่อนเป็นที่ว่าความของเมือง ที่รัฐบาลอยู่ตั้งแต่สมัยยุคกลางของยุโรปจนถึงไม่นานมานี้ที่ถูกย้ายไปอยู่ Plza de la Cibeles หนึงในที่ ๆ เราจะไปกันในวันนี้ค่ะ


ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่ทางสหรัฐอเมริกาเพิ่งอนุญาติกฎหมายให้คนเพศเดียวกันได้แต่งงาน ทำให้มีธงสายรุ้งเต็มเมืองเลย โดยเฉพาะตึกรัฐบาลต่างๆค่ะ
5. San Miguel Market
เดินแปป ๆ ก็ถึงแล้ว ตลาดสุดดังอย่าง San Miguel ที่คนเยอะมากกก และอาหารก็เยอะจนไม่รู้จะกินอะไรดี ตลาดเขาไม่เหมือนบ้านเรานะคะ ของเขาอย่างกับ Food Hall ในห้างเซนทรัลอะไรยังงั้น ที่นั่งแทบจะไม่มีแต่ก็หาได้ เราแนะนำให้กิน Paella หรือข้าวผัดสเปนที่มาสเปนแล้วต้องกินให้ได้ Jamon อ่านว่า คาม่อน หรือแฮม และ Tapas เล็ก ๆ ที่มีให้เลือกเยอะมาก










6. Plaza Mayor
ข้าง ๆ ตลาด San Miguel เดินมาไม่ถึง 10 นาที ก็เจอจุดศูนย์กลางของมาดริดแล้วค่ะ นั้นก็คือ Plaza Mayor ที่ถ้าค้นหารูปของมาดริดส่วนใหญ่จะถ่ายที่นี้กัน วันที่เราไปเหมือนเขาก่อสร้างอะไรอยู่ เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลย และวันนั้นร้อนมาก อยากรีบกลับไปโรงแรมตากแอร์ โรงแรมเราอยู่ Sol ซึ่งคือเดินกลับไปได้ ใกล้ทุกอย่างจริง ๆ แนะนำให้ถ้าเลือกได้ ให้อยู่แถว Sol นะคะ


7. Temple of Debod
พอพักตากแอร์ที่โรงแรมเสร็จ เราก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลง Plaza de España อีกครั้ง จริง ๆ ก่อนเราจะเดินไปพระราชวังหลวงก็แวะมาที่นี้ก่อนจะดีมาก แต่ตอนแรกไม่ได้แพลนว่าจะมา มันเลยงง ๆ นิดหน่อย ตอนที่ตัดสินใจมา คือเที่ยงวัน ร้อนมากกกกก ผิวไหม้ได้ อันนี้ไม่มีเสียค่าเข้านะคะ อยู่ในสวน Oeste Park ค่ะ


8. Fountain of Cibeles
และก็ต่อมาลงที่สถานี Banco de España เดินตรงมานิดหน่อยก็จะเห็น Plaza de Cibeles นี้ สวยอลังอยูตรงกลางถนนเลย ถ่ายรูปทีอันตรายมาก 5555 แต่ด้วยความเป็นเรา ก็วิ่งไปวิ่งมา ถ่ายมันทุกมุม เห็นธงสายรุ้งใช่ไหมคะ ก็เหมือนที่เราเห็นที่ Plaza de Villa เมื่อกี้เหมือนกัน ที่นี้เป็นทีี่กระทรวงหลักของรัฐบาลเมดริดค่ะ สร้างในสไตล์ neo classical ด้วยหินอ่อน



9. Alcala Gate
อันนี้เรามาแบบไม่ได้ตั้งใจ จากมุมที่ถ่ายรูปคือจริง ๆ กำลังจะเดินกลับบ้านแต่เห็นเลยถ่ายค่ะ เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างในสไตล์แบบ Neo-classical อีกแล้ว เห็นแล้วแอบคุ้น ๆ ไหมนะ จริง ๆ เราไม่คุ้นเลย แต่มาอ่านถึงจะรู้ว่านี้คือประตูชัยของมาดริด ความสำคัญมันอยู่ตรงอายุ เพราะเป็นประตูชัยที่สร้างมานานกว่าของฝรั่งเศสหรือเยอรมันอีกนะ
10. Prado Museum
Highlight ของทริปเราอยากมาที่นี้มาก ๆ เพราะสมัยเรียนปี 1 เราได้เรียนเกียวกับนักวาดรูปชื่อดังอย่าง Diego Velázquez และ Goya ที่ชอบวาดรูป Dark ๆ จิต ๆ หน่อย ที่นี้เค้าไม่ให้ถ่ายรูปเนอะ เราเลยซื้อ postcard มาถ่ายเป็นที่ระลึกข้างนอกแทน ทางไปง่ายแสนง่าย มีป้ายบอกตลอดดด ค่าตั๋วอยู่ในราคา 15 Euro ค่ะ แต่เราได้รับส่วนลดเพราะเป็นเด็กนักเรียนได้เข้าฟรีด้วยค่ะ




11. El Retiro Park
คือไม่มาที่นี้ไม่ได้จริง ๆ Retiro Park เป็นยิ่งกว่าสวนลุมของกรุงเทพบ้านเรา5555 ต้องมีโอกาสได้ไปพายเรือสักครั้ง แต่วันนั้นร้อนมาก เลยผ่านดีกว่า แต่ก็ชอบฟีลที่มีคนมาเล่นเพลงแถวนั้นนะคะ น่ารักดี



12. Palacio de Cristal
ก่อนเราจะกลับไปนอนตายที่โรงแรม ก็แวะมา Palacio de Cristal ค่ะ เป็นเหมือน glasshouse ที่ไม่ได้มีปลูกดอกไม้หรือต้นไม้อะไรข้างใน แต่เหมือนเอาไว้จัดนิทรรศการต่าง ๆ ตอนเราไป ไม่รู้จัดอะไร ดูแขก ๆ 555




13. Puerta Del Sol
สุดท้ายคือที่เราอยู่ค่ะ มีขายของสำหรับนักท่องเที่ยวทุกอย่าง เพราะเป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของนักท่องเที่ยว นั้นก็แปลว่าโจรเยอะมาก5555 เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย เพราะความรู้สึกเหมือน Plaza Mayor แต่เรามีร้านขนมมาแนะนำคือร้านขนม La Mallorquina ที่เขาบอกชื่อดังทั้สุดในมาดริด แล้วดันอยู่ตรงข้ามโรงแรมพอดี๊ พอดี ถามว่าได้กินไรไม่ เพราะคนเยอะมาก และสั่งไม่เป็น หรือสั่งไม่ทัน?? ร้านนี้เปิดมาเก่าแก่เป็นร้อยปีแล้วค่ะ เขาบอกว่าเมนูแนะนำคือ Napolitana con chocolate

จบแล้วววว กับที่เที่ยวในมาดริดที่ต้องไป แค่วันเดียวก็เที่ยวได้ จริง ๆ จะเพิ่มอีกสักที่สองที่ก็ยังได้ แต่ไม่ไหวแล้วจ้าาา หลังจากวันนี้ อีกวันก็นั่งรถบัสไป Segovia ติดตามกันได้ในบทความต่อไปนะคะ