
เมื่อซัมเมอร์ 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไป เที่ยวยุโรป กับเพื่อนที่มหาลัยอีก 2 คนค่าาา เป็นทริปเรียนจบที่สนุกมากก และมีความทรงจำดี ๆ มากมายกลับมา 28 วัน 6 ประเทศกับอีก 12 เมือง เที่ยวครบรสสุด แน่นอนว่าเราต้องมีอะไรมารีวิวและมาเล่าสู่กันฟังแน่นอน ! นี้ก็เป็นบทความสุดท้ายสำหรับซีรี่นี้แล้ว โอ้โห ใช้เวลา 1 ปีในการเขียน5555 วันนี้เราจะพามาที่สุดท้าย นั้นก็คือเมืองตากอากาศสุดน่ารักอย่าง Nida ของ ประเทศลิทัวเนีย นั่นเอง! เราอยู่ที่นี้ในช่วง weekend ก่อนกลับบ้าน บอกเลยว่าอากาศดีสุด ๆ ในช่วงหน้าร้อน ไม่แปลกใจทำไมคนถึงมากันเยอะ
Nida นิด้า ประเทศลิทัวเนีย
เรามีเริ่มจากการอธิบายกันก่อนดีกว่าว่า นิด้า คือเมืองอะไร เชื่อเลยว่าไม่มีใครเคยได้ยินชื่อเมีองนี้มาก่อน และรับประกันว่าไม่มีคนไทยคนไหนเคยไปแน่นอน ไม่ใช่เพราะเล็กอย่างเดียว แต่ไปยากสุด ๆ และขนาดตัว ประเทศลิทัวเนีย คนไทยยังแทบไม่ค่อยไปกันเลย เมืองเล็ก ๆ ขอบทะเลของ ประเทศลิทัวเนีย มีหรือจะมีใครเคยไป! เราโชคดีที่มีเพื่อนมัธยมมาจากเมืองนี้ เมืองนิด้าเป็นเมืองตากอากาศที่คนไปแค่ตอนฤดูร้อนจริง ๆ เพราะมีชายหาดที่สวยงาม และทำเลที่เล่นน้ำได้ ขนาดหน้าร้อน อากาศก็ยังไม่ได้ร้อนขนาดนั้น รู้สึกเหมือนเปิดแอร์แค่มีแดด และน้ำก็เย็นจนไม่คิดจะลงไปเล่นเลย
วิธีการเดินทาง เราเริ่มต้นจากเมืองหลวงอย่าง Vilnius วิลนีอุส และขับรถจากฝั่งหนึงของประเทศไปอีกฝั่ง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อมาถึงเมืองท่าอย่าง Klaipeda ที่มี Ferry ให้รถขึ้นข้ามฝั่งค่ะ
เป็นการนั่ง Ferry สั้น ๆ ประมาณ 15-20 นาที แต่การต่อคิวรถคือยาวมากกกกกก ยิ่งช่วงฤดูร้อนคือรอไปสัก 2 ชั่วโมงได้ แต่พอดีเพื่อนเราเกิดที่เมืองนี้เลยมา resident card ทำให้สามารถแซงคิวได้ รู้สึกเท่และ vip สุดๆ ไปเลยย
นี้เป็นรูปจาก google map ของเรือนะคะ ใส่รถด้ประมาณ 15-20 คัน เราเคยถามเพื่อนว่าทำไมเค้าไม่ทำสะพานสะเลย จะได้ไม่ต้องติดแบบนี้ เพราะเรือทั้งช้าและก่อสารพิษเยอะ ยิ่งช่วงพีค ๆ แบบนี้ที่ต้องไป ๆ มา ๆ ไม่รู้กีสิบรอบต่อวัน นางก็บอกว่าเพราะคนเมืองที่อยู่อีกฝั่ง (ฝั่งของเกาะที่มีเมืองนิด้าอยู่เป็นแคว้นชื่อว่า Neringa และตัวเกาะ หรือแผนดินแยกออกมาที่มีชื่อว่า Curonian Spit ) ไม่อยากให้มี เพราะจะเพิ่มคนเข้ามามากขึ้น เค้าชอบที่เป็นแบบนี้ ที่มีความ private และแยกตัวออกมา
คิวรถก็จะยาววววววววประมาณนี้ ทั้งขาไปและขากลับเลย การขึ้น ferry มีต้องจ่ายตังด้วยนะ ราครอยู่ที่ 15 ยูโรค่ะ
อย่างที่เห็น พอ ferry จอด เราก็ขับรถกันต่อ เรารู้สึกว่ามันเป็นพื้นแผนดินที่หน้าตกตลกมาก เป็นเส้นยาว ๆ ที่ติดกับแคว้น Kaliningrad ของรัสเซีย ที่เป็นติ่งแปลก ๆ แยกออกมาจาก mainland อยู่ระหว่างประเทศโปแลนด์ทางทิศใต้ และติดกับประเทศลิทัวเนียทางทิศเหนือ
สำหรับ Neringa แล้ว จะมีเมืองตากอากาศที่เด่น ๆ อยู่ 3 ที่ด้วยกันค่ะ และนิด้าเป็นที่สุดท้ายก่อนจะไปถึงรัสเซีย จะเป็นถนนเส้นยาว ๆ ทำให้ต้องผ่านทุกเมือง เริ่มจากเจอเมือง Juodkrante ก่อนและ Pervalka และ Preila ก่อนจะถึงนิด้า Nida ค่ะ
พอเรามาถึงจะมาทะเลกันเลยยยย อากาศดีมากกกกก น่านอนสุด ๆ
โชคดีมากว่าตอนที่ไปแดดออกพอดี เพราะตอนที่อยู่เมืองหลวงคือฝนตกทุกวันจนน่าเป็นห่วงงง
อันนี้อาหารเช้าค่ะ
พอกินอาหารเช้าเสร็จก็ไปนั่งชายหาด ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยอยู่ชายหาดนาน ๆ มาก่อนเลย ยิ่งที่ประเทศเรา เพราะร้อน เหนียว มากกกก แต่ที่นี้อากาศดีจริง ๆ และถ้าเราลืมพวกร่ม หรือขนม น้ำดื่ม เค้าก็มีขายยย เราสามารถเช้าร่มกับที่นั่งชายหาดได้ในราคา 2 อย่างทั้งวัน 15 ยุโรป ซึ่งเพื่อนเราบอกแพงมาก แต่เรากลับเฉย ๆ เพราะถ้าใช้ทั้งวันก็คุ้มมม
นี้คือกลุ่มที่ไปค่ะ พวกเค้าคือรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างมารู้จักกันที่เมืองนี้ เพราะพ่อแม่พามาเที่ยวตอนเด็ก ๆ ทุกฤดูร้อน และเพื่อนเราหรือผุ้หญิงที่อยู่ขวาสุด เป็นคนที่นี้ เลยกลายเป็นแก๊งที่เจอกันทุกปี
ได้เวลาถ่ายรูป พอแดดเริ่มหมด และทุกคนเริ่มหิวว
เม็ดทรายขาวละเอียดมากกกก
มีไอติมให้กิน ห้องน้ำให้เข้า แต่ต้องเดินนิดหนึงนะ
พอกินข้าวเย็นเสร็จก็ถึงเวลาไปภูเขาทรายที่ยอดฮิตของที่นี้ ที่มีชื่อเรียกว่า White Dunes เพราะเป็นภูเขาทรายขาว เนียนละเอียด ก่อนไปถึง ก้จะมีวิวสวย ๆ แบบนี้ให้เดินเล่นกัน
ถ้ามองไปดี ๆ เราจะเห็นฝั่งของประเทศรัสเซียค่ะ
พอเดินไปเรื่อย ๆ พระอาทิตย์ก็เริ่มตก แต่สิ่งที่ดีเกี่ยวกับฤดูร้อนที่นี้คือ พระอาทิตย์กว่าจะตกก็ 3-4 ทุ่ม ทำให้นั่งชิวได้เรื่อย ๆ เลย ไม่มีความเร่วรีบอะไรใด ๆ
อันนี้จะเป็นทะเลฝั่งของประเทศลิทัวเนียค่ะ สีสวยมาก ๆ สงบสุด ๆ แบบหลับได้เลย
รูปทั้งหมดนี้เราไม่ได้แต่งรูปใด ๆ เอาเป็นแบบ no filter ไปเลย
อะแต่ถ้าพอมีเรา ก็ต้อง filter แรง ๆๆๆๆๆ 5555
อย่างกับอยู่ในความฝันเลย ฟุ้ง ๆ ขาว ๆ
พอตื่นมาอีกวัน เราก็ขึ้นเรือเพื่อร่องทะเลที่เห็นกันข้างบน เพื่อดูวิว Sand Dune ในอีกมุมมม เราโชคดีอีกแล้ว เพราะจริง ๆ มีทัวร์ที่สามารถจ่ายตังให้เค้าพาไปได้ แต่เพื่อนเราไปรู้จักกับเจ้าของเรือเล็ก ๆ อันหนึงพอดี แต่เอาจริง ๆ เมาเรือมากกก 5555 และอากาศร้อน แดดร้อนสุด
นั่งไปประมาณ 1 ชั่วครึ่ง ก็ถึงเวลาขับรถกลับบ้านกันแล้วววว หลังจากวันนี้ อีกวันเราก็ขึ้นเครื่องกลับไทย เศร้าจริง ๆ แต่ทุกงานเลี้ยงต้องมีเลิกรา
และแล้วทริป Graduation ของ Summer ปี 2017 ก็จบลง เรากลับมาไทยเพื่อเริ่มทำงาน งานแรกในชีวิต เป็นความแตกต่างที่ตัวเองยังตกใจ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วยังเที่ยวยุโรปอยู่เลยไรงี้ แต่เราก็ดีใจที่ได้ไปเที่ยววว เก็บรูปและประสบการณ์ดี ๆ มากมายยย cant wait for the next adventure แล้ว ติดตามตอนต่อไปนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบทริปนี้เหมือนที่เราไปชอบกันนะ
เรียบเรียงโดย ohmissannabella.com