เมื่อซัมเมอร์ 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไป เที่ยวยุโรป กับเพื่อนที่มหาลัยอีก  2 คนค่าาา เป็นทริปเรียนจบที่สนุกมากก และมีความทรงจำดี ๆ มากมายกลับมา 28 วัน 6  ประเทศกับอีก 12 เมือง เที่ยวครบรสสุด แน่นอนว่าเราต้องมีอะไรมารีวิวและมาเล่าสู่กันฟังแน่นอน ! เราได้ แพลนที่จะเขียนบทความด้วยการเน้นครอบคลุมแต่ละประเทศและแต่ละเมืองที่สำคัญต่าง ๆ งั้นเริ่มกับเมืองแรกของทริปกันเลยดีกว่า!

FIRST STOP: MOSCOW, RUSSIA

มอสโก เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหพันธรัฐรัสเซีย ทั้งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน การศึกษา และ การเดินทางของประเทศ ในตัวเมืองมีประชากรอยู่อาศัยกว่า 1 ใน 10 ของประเทศ ทำให้เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในยุโรป เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มอสโกได้รับการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ตามมาด้วย ลอนดอน  แต่เพราะเจอวิกฤติเงินรูเบิลไปเมื่อปี 2014 ทำให้รัสเซียเป็นอีกที่ที่เที่ยวไม่แพงเลย ตอนเราไปตอนแรกก็ไม่รู้ แต่พอไปคือตกใจจริงๆ ตั้งแต่ที่พัก อาหาร จนถึง uber ที่นั่งกันเป็นว่าเล่น ฟินสุดๆ ไปเลย ของในซุปเปอร์ก็ถูกกว่าไทยอีกด้วย


AEROFLOT: DIRECT FLIGHT TO MOSCOW

ก่อนอื่นเลย เราต้องพูดถึง flight เครื่องบินที่เราได้ใช้บริการในครั้งนี้ คราวนี้แปลกกว่าคราวอื่นเพราะ

  1. เพิ่งจะเคยได้ลองนั่ง aeroflot หรือสายการบินแห่งชาติของรัสเซีย ตอนแรกคือทุกคนเตือนไว้แล้วว่าห่วยแตกมากนะแอนนา แต่พอเห็นราคาบินตรงระหว่างการบินไทยกับของ aeroflot เราก็ยอมจ้าาา555 ห่างกันเยอะอยู่ เกือบ 8000 ไม่สู้จ้า
  2. ครั้งนี้อีกอย่างที่แปลกใหม่ คือจองตั๋วไปกลับแยกกัน เพราะขากลับเรากลับประเทศอื่นในยุโรป เราจอง  aeroflot ไป 12000 บาท ขากลับนั่ง turkish airlines กลับจ่ายไปอีก 14000 ร่วมกันก็ 26000-27000 สำหรับเราคือโอเคมาก เพราะเรารู้ว่าการซื้อแยกมันแพงกว่าซื้อตั๋วไปกลับ แต่มากกว่านั้นความลำบากคือ การเข้าประเทศค่ะ

ปัญหา: เพราะเรามีแค่ตั๋วไป และไม่ได้ซื้อตั๋วกลับ ทำให้เค้าสงสับเราเป็นพิเศษ เพราะรัสเซียไม่ได้ขอวีซ่า เค้าเลยต้องการให้เราโชว์ตั๋ว e-ticket ที่เราจองกับ turkish airlines ขากลับ เพื่อยืนยันว่าอีนี้จะไม่ไปหนีและไม่กลับมา ต้องอธิบายทั้งทริปค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ยาวมาก ๆ เพราะเราไปหลายที่ และเดินทางหลายแบบ ทั้งเครื่องบิน รถไฟต่าง ๆ แต่ก็ทำค่ะ เริ่มบอกตั้งแต่ check in ตรง counter aeroflot ที่สุวรรณภูมิ เพราะนางต้องแน่ใจก่อนจะออกตั๋วให้ว่าอีนี้ไม่ได้ซื้อมางงๆ และพอไปถึงเข้าไม่ได้ เค้าต้องมารับปิดชอบนะ ไรงี้ สิ่งหนึงที่อยากแนะนำให้ทุกคนที่เดินทางเองและไม่ได้ซื้อตั๋วกลับคือปริ้นทุกอย่างออกมา PLEASE เป็นแบบ hard copy เพราะมันต้องใช้จริง ๆ เพื่อความอ่านง่ายเห็นชัดนะจ้ะ

คนก็จะเริ่มผมทอง ๆ ฝรั่ง ๆ ละ มีคนไทยน้อยมาก ที่เห็นคือกลุ่มเดียวในทั้งโซนที่เรานั่ง พี่ ๆ เค้าพูดดังมาก พอได้คุยกันก่อนออกว่าเออมาเพราะไม่เคยมามาก่อน และนี้ครั้งแรก เห็นไม่ต้องใช้วีซ่า เลยอยากมา

ที่นั่งปกติมาก ๆ ค่ะ แต่ชอบนะ เราว่าไม่ได้ดูเก่าอะไรเหมือนที่เพื่อนเตือนเอาไว้

เพื่อนเคยบอกว่า แก มันไม่มีทีวีส่วนตัวนะ เราก็แบบเตรียมใจไว้แล้ว ว่าจะเอาคอมขึ้น โหลดหนังไว้เยอะมาก แต่ความจริงแล้ว มีจ้า และมีหนังเยอะด้วย ทีสำคัญ วีดีโอ safety นาง ผู้หญิงสวยมากกกก 5555 นึกว่ากำลังดู  catwalk หรืออะไรสักอย่าง ผมทอง ตาฟ้า ขนตายาวมว๊าก

คือรูปอาจจะดูไม่น่ากิน แต่เพื่อนทีไปด้วยกันอีก 2 คนและเราขอยืนยันว่าอร่อยยยยยย อร่อยมากกก กินหมดทุกคน มีไอติมแจกด้วย และอีขนมที่มีวานิลล่ารุปแรก อร่อยที่สุดดดดด หอมมาก เรากินอิ่มมากค่ะ flight นี้ กลายเป็นว่า aeroflot ดีกว่าturkish airlines ขากลับที่เค้าบอกอาหารดียังนู้นยังนี้อีก ผ่าน ผ่าน ผ่าน !


INTERNET: SIMCARD DATA ONLY

ใครเป็นเหมือนเราบ้าง แบบเครื่องบินลงแล้วต้องการเน็ต AS SOON AS POSSIBLE ใจมันจะขาดดดด นั่งมาตั้งนาน อยากเปิดเฟสเว้ยย อยากเปิด IG ลง story สรุปทริปนี้เราบ้ามาก ใข้เน็ตไป 26GB จ้าาาาาา บ้าไปแล้ววว ตอนแรกคือซื้อไปแบบเหมา  1เดือน 999 บาท ไม่พอออ หมดตั้งแต่ 3 วันแรกอะคิดดู ใครที่บ้า social media เหมือนเราคือถ้าเลือกอันที่เป็น unlimited ได้ ให้เอานะ ไม่งั้นซื้อเรื่อย ๆ มันแพงจริง ๆ แต่ที่รัสเซียขอบอกเลยว่า ไม่มีปัญหาเลยยย เริ่มมามีปัญหาก็คือตอนเข้ายุโรปนี้เอง รัสเซียเน็ตถูกมาก ทุกอย่างของที่นี้มันถูกแบบบ้าไปแล้ว เราจ่ายไป 300 rubles หรือ 150 บาทเท่านั้น ใช้ไม่มีปัญหา 8 วันที่อยูที่นี้ ทั้ง มอสโก และ Saint Petersburg ซื้อได้ที่สนามบิน ของเราไปลงที่สนามบิน Sheremetyevo ที่เรารู้สึกว่าตอนไปคือคนน้อย เหมือนเป็นสนามบินที่ Aeroflot ไปลง ออกจากรับกระเป๋ามาข้างนอกก่อนนะ จะมีป้ายเขียนให้เลือกอยู่ เป็นภาษาอังกฤษค่ะ ตอนแรกเราว่าจะไม่ซื้อ เพราะกลัวแพงกว่าในเมืองหรือเปล่า แต่คนขับที่มารับบอกซื้อตรงนี้ก็ราคาเหมือนกัน แต่ร้านแรกคิวเยอะ เพราะทุกคนที่ออกมาหันกันไปตรงนั้นหมด เราก็เลยลองเดินออกไปดูอีกที่ เดินออกมาหน่อยก็เจออีกร้าน และดันถูกกว่าด้วยจ้า เราซื้อของค่าย megafon สีเขียวๆ อันนี้ เป็น booth เล็ก ๆ ชอบๆๆ

แต่นางคนที่ทำให้แอบช้านิสส รู้สึกเกรงใจคนขับที่ไปเรียกมาจากเว็บ Lingo Taxi เพราะนางก็ไม่บ่นไม่หงุดหงิดอะไรเลยย ขนาดนี้มาสายแล้วเพราะตมตรวจนานมาก เจอกรุ๊ปทัวร์จีนลง


AIRPORT TRANSFER: LINGO TAXI

เราว่าครั้งแรกที่มาให้เลือกบริการรับส่งแบบนี้ดีกว่า เพราะเค้าจะมารอเราตั้งแต่เครื่องลง มีการอัปเดตตลอด ถ้าเกิดเครื่องเราdelayเค้าก็จะรู้ เลยไม่ต้องห่วงเค้าจะไม่รอ หรือรอนานจนกลับบ้าน แต่ราคาจะสูงกว่า uber หน่อย แต่เพราะเรามีกัน 3 คน หารกันก็ไม่แย่ และเรารู้สึกเชื่อใจได้ เพราะจ่ายตอนถึงโรงแรม ไม่ได้จ่ายก่อน และที่สำคัญนางตอบ  email เร็วเลยรู้สึกสบายใจ

 


GETTING AROUND

ราคา fixed price 2600 rubles ก็ตกคนละไม่เกิน 500 บาท เอง เราว่าโอมาก นางน่ารักมาก ช่วยถือทุกอย่าง และหาโรงแรมที่แสนจะเล็ก ที่ต้องแยกขึ้นบันได นางก็ช่วยเว้ยย คุ้ม ๆ แต่ตอนแรกจะจองให้ไปส่งสถานีรถไฟ เพื่อไป  Saint Petersburg แต่ก็ยกเลิกไป เพราะมาดู map และเพิ่งรู้ว่าโรงแรมเรามันใกล้กับสถานีมาก นั่ง uber คุ้มกว่า แต่ uber ไม่มีแบบรถขนาดใหญ่ที่สามารถแบกกระเป๋าของชะนีได้ เลยโหลดอีก app ชื่อว่า Get Taxi แต่ความรำคาญนี้คือ request นางว่าเอาคนขับพูดภาษาอังกฤษมานะ นางก็เอาอีที่พูดไม่ได้มา และแม่งก็ตะโกน ๆ กูก็ฟังไม่ออกเข้าใจปะ ยังดีที่โรงแรมอันแสนเล็กของเรา มีcounter ที่พูดคุยให้ได้ ไม่งั้นก็ไม่ได้ขึ้นรถไฟค่ะะ

หน้าตา app เป็นงี้ เหมือน uber ทุกอย่างจ้าา แต่จะมีให้เลือกประเภทรถได้ ซึ่ง uber ที่ มอสโกยังไม่มีตัวเลือกอันนี้

การเดินทางไปมาในเมือง ทุกคนบอก โห ไป มอสโก มึงนั่งแท็กซี่หรอ ใช่สิ เพราะมันถูกและกูขี้เกียจไงงง และอีรถไฟใต้ดินที่บอกว่าสวย ๆ นี้ไม่ได้ไปสักที่ และไม่รู้สึกเสียดายเลยสักนิด เพราะมันไกลกันมากแต่ละที่ และฟีลแบบไม่อยากไปเพื่อไปดูแค่สถานีเข้าใจปะ ด้วยความที่ landmark นางก็สวยแล้ว เราเลยไม่อยากไป เลยถ้าให้พูดเรื่องใช้รถไฟนาง ก็ตอบว่าไม่รู้เลย และดีใจด้วยเพราะนางดูยุ่งยาก app ก็โหลดมาใช้ไม่ได้เรื่อง เป็นเหมือนรูป map เฉย ๆ ไม่มีการ guide อะไรเลยจ้า


WHERE TO STAY?

อย่างแรกเลย นี้คือแผนที่สำคัญที่เราได้ใช้เวลามากที่สุดใน มอสโก ถ้าจะมีอยู่นอกโซนนี้ก็เพื่อไป Izmailovo market และ Danilovskoye Market แต่นอกจากนั้นคือเดินอยู่แถว ๆ นี้หมดเลย เพราะแถวที่พักก็มีร้านอาหารเยอะมากก และสามารถเดินชิว ๆ ไป Red Square ได้อีกด้วย

โรงแรมเราชื่อ Bouchee Mini Hotel นะคะ เป็นโรงแรมที่เล็กจริง ๆค่ะ ตอนแรกที่มากับคนขับที่เขาไปรับที่สนามบินยังหากันไม่เจอ เพราะใช้เนื้อที่แค่ครึ่งชั้นของตึกที่มีการก่อนสร้าง ตอนแรกที่เห็นคือคิดในใจแล้วว่า เอาอีกแล้ว อีแอนนา แกเลือกที่นอนได้แย่อีกละ แต่พอเข้าไป มันก็ไม่แย่อย่างที่คิดเลย โดยเฉพาะราคาและ location ที่ได้ ราคาตกคืนละไม่ถึง 3 พัน พอหารกันก็คนละไม่ถึงพัน ถูกที่สุดในทริปแล้วค่ะ ที่เราเลือกที่นี้เพราะ rating ในbooking ดี และนางดูไม่เก่าเพราะเพิ่ง renovate ใหม่ โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ในรัสเซียดูเก่ามากอะ

ถ้าใครสนใจเราเขียนรีวิวที่ละเอียดมากๆ ไว้

PROS

The location was amazing. So many good cafes and restaurant around. The park in front of the hotel is also very nice with Clean Ponds that look extra beautiful during sunset. It’s also walkable to Red Square and the GUM department store. The receptionists although couldn’t speak English well, tried to help us and also provided us with a lot of extra towels and tissue paper when we asked.

The free hot and cold water was also nice. The room was clean and there was some storage for our clothes and items. For the bathroom, the water has a good pressure but we wish it could stay hot longer than it did. The bed sheets and pillows were comfy and clean, we all had a good and deep sleep. Overall, it was really worth the money mainly because of the location.

CONS

First, we didn’t like the construction that was going on in front of the hotel (even though it did stop around 11 pm and resumed at around 9 am) that was not only noisy but it was hard to walk into the building with big luggage. Second, once we are in front of the door, the hotel didn’t manage to tell us the key passcode for the door. The hotel was 2 floors above, no elevators but at least the staircase was wide.

Third, one of the receptionists who was there cannot speak English but at least she was trying her best to accommodate us. Fourth, we didn’t like the tiny sink and the one only bin that was too little for the room of 3 guests. Fifth, the hot water was not enough for the 3 of us to shower. Fifth, the aircon was too hot on the second night but after that, it happened to work just fine. Lastly, the toilet seat was broken.

พอมาถึง มอสโก เราก็เปลี่ยนชุดแต่งหน้ากันค่ะ เพราะว่าถึงประมาณบ่ายแก่ ๆ ยังพอสำรวจบริเวณที่พักได้ เพราะเป็นช่วง summer กว่าพระอาทิตย์จะตกคือ 5 ทุ่ม! ทำให้ไม่มีความรู้สึกกลัวเลยยยย

ชอบ location ที่นี้มากกก เพราะใกล้กับ park ที่มี pond ที่สวยมาก อากาศก็ดีสุด ๆ คือแฮปปี้เว่อร์ มีร้านอาหารหนึงที่ถ้าเราดูใน map จะเห็นชื่อติดอยู่ เพราะเราชอบสุด ๆ เราไปกินที่นี้นาจะ 4 รอบได้ ใน 5 วันครึ่งที่อยู่ เป้นร้านอาหารที่พนักงานเปลี่ยนทุกวัน และอาหาร healthy นางให้เยอะและอร่อยดี แบะที่สำคัณคือมันใกล้ที่พัก ชอบขี้เกียจ เลยแวะไปได้ทุกเช้า


DAY 2: Red Square

และแล้วก็ถึงเช้าวันใหม่ หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จที่ Shater ที่เดิมหน้าโรงแรม เราก็ออกเดินทางกันเลย!

นี้สั่ง scramble egg กับแซลมอนมาา เค้าให้เนื้อแซลมอนเยอะมากก นี้ราคาอยู่ที่ 300 rubles หรือ 150 บาทเองอะ คือที่ไทยคง 300 ที่นี้ค่าเงิน ราคาของ อย่างกับไทย แต่ถูกอีกคือต้องการ 2

พอกินเสร็จก็เดินไป Red Square หรือจุด landmark ของเมืองหลวงนี้

GUM DEPARTMENT STORE

ถ้าใครมา red square และไม่มีห้างชื่อดังของโซเวียตนี้คงจะไม่ได้ ห้างนี้ทำให้นึกถึงห้าง Harrods ที่ลอนดอนเลย ดูเก่าแก่ อลังการมาก ยิ่งตอนกลางคืนเปิดไฟคือสวยมากกก ห้างนี้เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโก และได้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1895 เป็นอาคารสูง 3 ชั้น และจะมีอีกห้างหนึงที่ทันสมัยขึ้นมาหน่อยชื่อว่า T​SUM ซึ่งรู้สึกว่าจะอยู่ไม่ไกลกันขนาดนั้น

ที่นี้จะดังเรื่องไอติมมากค่ะ เห็นคนต่อเยอะมาก ไม่รู้ได้ฟรีหรืออะไร พอเราลองก็เฉยมากกก มีอีกแบบเป็นscoop ซึ่งก็ได้ลองแล้วเหมือนกัน ก็เฉยๆ พอกันเลยย แแต่เค้าบอกว่าต้องมาลองนะ เพราะนี้ละคือตัวอย่างของความเรียบเงียบในแบบฉบับโซเวียต

STATE HISTORICAL MUSEUM

พอเราเดินออกมาจากห้าง GUM เราก็จะเจอ Red Square บริเวณลานกว้างในย่านจัตุรัสแดง มองไปทางซ้ายยจะเจอเจ้าตึกนี้

THE SPASSKAYA TOWER

พอเดินมาสักพักก็จะเจอตึกนี้ และข้าง ๆ ก็เป็น St. Basil Catheral ชื่อดัง ตึก Tower นี้รู้สึกจะเป็นทางเข้า Kremlin ค่ะ

ST. BASIL CATHEDRAL

และไม่พูดคงไม่ได้ ที่มอสโกเลยก็เพราะพระเอกของเราคนนี้ เราไม่ได้ขึ้นไปนะคะ แต่ถ่ายข้างนอกแทน ตอนที่เราไปเหมือนมีจัดงานอะไรไม่รู้ จะหามุมยากมากแบบที่ไม่มีอะไรบัง


Day 3: Danilovsky

วันที่ 3 เราก็ได้ตัดสินใจไปเที่ยวแถว Danilovsky เพราะได้ไปหามาว่ามี indoor market ที่น่าสนใจมาก ๆ อยากไปดูผลไม้สดและอาหารอร่อย ๆ เพราะเพื่อนเราชอบกินผลไม้กันมาก

มีขายดอกไม้สวย ๆ เยอะเลยค่ะ

จะมีร้านอาหารเล็ก ๆ ให้เลือกรอบนอก มีหลากหลายมาจากหลายประเทศเลย

หลังจากกินอาหารเสร็จก็แวะกินไอติม คนขายน่ารักมากก ให้ลองเยอะและยังมีแถมให้ด้วย เพื่อนบอกไอติมรส cheese คือฟินมาก

เชอรรี่อร่อยมากกกกกกค่ะ ลูกใหญ่ รสหวาน และไม่แพงด้วยย แต่หนักจริง ๆ ต้องแบกไปมาทั้งวัน

อ่านในรีวิว นางบอก Pho ที่นี้อร่อยมาก กินคู่กับมะม่วงปันคือฟิน แต่อีเรากิน คิดว่าเฉยมากกก

หลังจากกินอาหาร และไอติมกันจนอิ่มอกอิ่มใจ ก็เดินกันไป Monastry ของย่านนี้ค่ะ ใช้เวลาเดินสักพัก ผ่านป่าผ่านย่านคนอยู่

เราว่าสีสวยดี จริง ๆ ที่มาก็เพราะมันใกล้ ๆ ตลาดเลยแวะมา พอเข้าไปแล้วรู้สึกขนลุกเลย คือโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ค่อนข้างแตกต่างจากโบสถ์คาทอลิกที่เราพบเห็นบ่อย ๆ มาก เพราะไม่ได้แต่งเว่อณือัลงขนาดนั้น และข้างในจะมีความมืดและดูจริงจังพอสมควร เราเข้าไปนี้รู้สึกว่าเงียบมาก ไม่กล้าแม้แต่จะถ่ายกดถ่ายรูป ทุกคนดูอินกับพระคริสต์มาก มีการจูบรูปภาพ บางคนมีร้องไห้ ไอเราก็ไม่รู้เค้าร้องอะไรเหมือนกันนะ แต่มันคนละฟีลกับโบสถ์ประเทศอื่น ๆ มาก ๆ

อันนี้เป็นบรรยากาศกำแพงด้านนอก พอดีตอนเดินแอบหลงนิดหนึง เลยในระหว่างหาทางเข้าก็ดูกำแพงไปเรื่อยๆ


Day 4: Izmaylovskiy market

เห็นที่นี้รีวิวดีมากว่ามีของขายเยอะ แต่พอไปคือเงียบมาก ตอนแรกนึกว่ามันปิดด้วย แต่อาจจะเพราะไม่ได้ไปช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แต่ยังไงแล้วตึกก็สวยค่ะ ก็คุ้มที่มา เพราะแอบไกลจากตัวเมือง ดีใจที่ไปกับ uber มารับส่งหน้าที่เที่ยวเลย ไม่เสียตังค่าเข้านะคะ

วันที่ไปมีงานแต่งงานเยอะมาก เหมือนเป็น mass wedding เลย คือจะมีเวลาของเค้า รอเพื่อนเข้าห้องน้ำประมาณ 10 นาที ผ่านไปตั้ง 2 คู่ เค้ามาเร็ว ถ่ายเร็ว เคลมเร็วมาก

หลังจากถ่ายรูปเสร็จแล้วก็นั่ง uber กลับแถวที่พักค่ะ อีกร้านหนึงที่เราค่อนข้างติดใจ ไปกันถึง 2 รอบคือร้านนี้ที่ไปหามา มีชื่อร้านว่า Extra Virgin ค่ะ

สลัดไก่นางที่มีคนสั่งเยอะเลย เราเลยขอสั่งตาม หอมจริง ๆ แต่เพื่อนบอกไม่อิ่มม

ไอติมเล็กมาก เพื่อนก็กินกันบอกอร่อย

เราสั่งน้ำ lemonade แบบ homemade ผสม watermelon สั่งมาผิด ๆ จริง ๆ อยากได้แก้วเดียว แต่ดันสั่งมาทั้งลิตร อันนี้ก็โดนไป 400 บาทจ้า 

สปาเก็ตตี้อันนี้อร่อยมากกกกก  จริง ๆ เราไม่ค่อยชอบกินสปาเก็ตตี้เท่าไหร่เพราะมันชอบออกไปทางรสเลี่ยน ๆ ทำให้กินนิดหน่อยก็แบบขอบาย แต่ร้านนี้ไม่มีเนื้ออะไรเลย เรายังกินหมดแบบแฮปปี้เว่อร์ รสชาติดีมาก จัดจ้านด้วย

บรรยากาศในร้านสบาย ๆ ให้ความรู้สึกแบบ hang out กับเพื่อน ชอบบบบ

เพื่อนเราจริง ๆ ก็ไป hangout กันทุกคืน บอกบารากุถูกมาก และกลิ่นหอม แรงไม่มีตกทั้งคืน จ่ายกันพร้อม drink ไม่เคยเกินคนละ 400-500 บาทเลย นั่งกันหลายชั่วโมงสุด ๆ เราก็ไม่ได้ไปอะเนอะ ชอบอยู่ในห้องนั่งเล่นคอม หลังจากวันนี้เราก็ได้ไปกิน Shater อีกครั้งตอนเช้า และก็เตรียมตัวนั่งรถไฟความเร็วสูงไปเมืองใหม่ Saint Petersburg นั่นเอง คอยติดตามดูตอนต่อไปนะคะ อยากบอกว่า  Saint Petersburg นี้สวยมาก ๆๆๆๆ และอลังเว่อร์ ๆ เป็นเมืองที่เรารักมากกกก อยากอยู่นาน ๆ เลย


เรียบเรียงโดย ohmissannabella

Comments

comments