
เมื่อซัมเมอร์ 2017 ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสไป เที่ยวยุโรป กับเพื่อนที่มหาลัยอีก 2 คนค่าาา เป็นทริปเรียนจบที่สนุกมากก และมีความทรงจำดี ๆ มากมายกลับมา 28 วัน 6 ประเทศกับอีก 12 เมือง เที่ยวครบรสสุด แน่นอนว่าเราต้องมีอะไรมารีวิวและมาเล่าสู่กันฟังแน่นอน ! เราได้ แพลนที่จะเขียนบทความด้วยการเน้นครอบคลุมแต่ละประเทศและแต่ละเมืองที่สำคัญต่าง ๆ งั้นมาต่อกันที่เมืองที่ 5 และ 6 ของทริปด้วยการข้ามฟากไปประเทศ ฟินแลนด์ ไปพักเมืองหลวง เฮลซิงกิ และเที่ยวเมืองพอร์วู (Porvoo) ที่อยู่ติดกันใกล้ ๆ 🙂
STOP 5: Helsinki, Finland
เฮลซิงกิ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน และขอบอกเลยว่าคนน้อยมากจริง ๆ ในเมือง ยิ่งเราไปช่วงฤดูร้อน ตอนที่คนหนีกันไปตากอากาศนอกเมือง เรายังไม่อยากเชื่อว่านี้คือเมืองหลวง เพราะคนน้อยมากก ถ้าคิดถึงประเทศฟินแลนด์ ส่วนใหญ่คนจะคิดถึงหิมะตกตอนหนาว ๆ โดยเฉพาะเที่ยวทางตอนบนของประเทศอย่าง Lapland ที่ให้ความรู้สึกแบบ winter wonderland อย่างแท้จริง ทั้งได้ดูแสงเหนือ midnight sun หรือดวงอาทิตย์เที่ยงคืนที่ยังเห็นได้ในเวลาดึก ทั้งเป็นบ้านเกิดของซานตาครอส หมู่บ้านกลาสอิกลู (Glass Igloo) นั่งรถสุนัขลากเลื่อน และกวางเรนเดียร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของเขตแลปแลนด์ เอ้า ถ้า Lapland ดีขนาดนี้ทำไมไม่ไป ก็เพราะเราไปตอนฤดูร้อน เลยอดจ้า ไปแค่เมืองหลวงพอนะ
TALLINN – HELINSKI
by Direct Ferries
วิธีการจองก็ง่ายแสนง่ายจ้า เข้าไป google กดหาเลยว่ามีเรือที่ออกจากทาลลินน์ และไปเฮลซิงกิวันที่เราจะไปกันบ้างไหม ปรากฏว่าเยอะมาก เพิ่งจะรู้ตอนขึ้นเรือว่า ทาลลินน์-เฮลซิงกิ และ เฮลซิงกิ-ทาลลินน์ เป็น route ที่ดังมาก ๆ ค่ะ คนส่วนใหญ่จะชอบนั่งเรือกันเพื่อไปซื้อของ Duty Free โดยเฉพาะเหล้า ในช่วงที่เรืออยู่บนทะเทของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อจะหลีกเลี้ยงภาษี เออมีงี้ด้วย เราจะเห็นคนซื้อเหล้ากันเป็นลัง ๆ พร้อมที่ข่น บางคนก็มีแบบนั่งไปกลับด้วย เพราะนอกจากเรือจะใหญ่มากแล้ว ยังสะอาด สวย เหมือนเรือ Cruise มากกว่า Ferry ค่ะ
หลังจากที่เราเปรียบเทียบราคาของแต่ละเว็บ และถูกใจกับราคาของ Direct Ferries แล้วก็ซื้อโลดดด นี้คือเหตุผลที่ควรมีบัตร credit ติดตัว และไม่ใช่ debit เพราะจะจองอะไรในเน็ตก็ง่ายและสะดวกมาก
เราเลือกเวลา 12.00 ถึง 14.15 เป็นเวลาที่ checkout จากโรงแรมที่ทาลล์ลิน และ checkin ที่เฮลซิงกิได้เพอเฟคสุด ๆ แต่ตอนแรกคือชะล่าใจเพราะเห็นที่พักที่ทาลล์ลินติดกับท่าเรือ เลยออกช้า เกือบขึ้นเรือไม่ทัน ต้องวิ่งงงง เราควรไปก่อนเวลาออก45 นาทีนะคะ แต่เราดันไปก่อนออกแค่ 15 นาทีเท่านั้นนน ดีนะไม่มีคิว ก็เอาใบ confirmation นี้โชว์ให้เค้าเตอร์ดู เค้าก็จะมีข้อมูลเรา เนื่องเราจ่ายด้วยบัตรแล้ว เค้าก็จะให้สติกเก้อร์และบัตรโดยสารเรา เป็นว่าขึ้นไปได้เลยย
นี้รูปวิวจากเรือค่ะ เรือใหญ่มากกกก มีทั้ง slot machine ร้านอาหาร duty free มีสระว่ายน้ำ ทุกอย่างที่คิดได้ในเรือ Cruise เลย ไม่รู้เรียก Ferry ได้ไงเหมือนกัน
บอกลาทาล์ลิน และมุ่งหน้าสู่ ฟินแลนด์ และเมืองแฝดอย่างเฮลซิงกิ กัน!
ACCOMODATION
ที่นอนดีอีกแล้ววว เรานั่งแท็กซี่มาจากท่าเรือค่ะ ระหว่างทางคนขับน่ารักมาก นางรู้จักประเทศไทยก็เลยชวนกันคุยใหญ่เลย นอกจากนั้นยังมีแนะนำร้านอาหาร หรือที่ ๆ ควรมากันด้วย สำหรับที่นอน เค้าบอกที่ ๆ เราอยู่เป็นย่านไฮโซเลยยย ไม่รู้มาก่อน แต่ราคาไม่ได้แรงมากด้วย ที่สำคัญ host น่ารักมาก แฮปปี้ที่สุดคือเป็นที่พักแรกในการเที่ยวยุโรปที่มีที่ฉีดตูดจ้าาา กรี๊ดดด เราชอบอยู่แบบอพาร์ทเม้นมากกว่าโรงแรมมาก เพราะนอกจากห้องจะใหญ่แล้ว ยังมีห้องครัวให้ซื้อของจากซุปเปอร์มานั่งกินกันด้วย
SIGHTSEEING
อันนี้วีดีโอไปเที่ยวนะคะ เข้าประเทศ ฟินแลนด์ ตอนประมาณนาทีที่ 2.30 เราจะเห้นที่เที่ยวอันแรกในลิสเลย นั้นก็คือ Market Square ที่เราไปกินมื้อเที่ยงกันน
Market Square
ในเมืองยุโรปต่าง ๆ จะมี Market Sqaure หรือตลาดแบบ outdoor ที่เจ้าของฟาร์มจะนำของที่ตัวเองปลูกได้มาขายกันแบบนี้ค่ะ เค้าก็จะมีขายตั้งแต่ผลไม้พวก cherry strawberry rasberry blueberry ถูก ๆ ขายเป็นโล ๆ จนไปถึงผักและอาหารสด แต่สำหรับที่ เฮลซิงกิ ที่เราเห็นแล้วตื่นเต้นมากขึ้นอาหารทะเลของเค้าค่ะ เนื่องจากติดที่อยู่ใกล้ท่าเรือ ก็เป็นธรรมดาที่จะมีอาหารที่ใช้ปลาเป็นหลัก ตั้งแต่ซุปแซลม่อนกับมันบด มีปลา มีปลาหมึก มีผัดผัก และก็จะมีที่นั่งให้นั่งค่ะ พร้อมช้อนส้อม และทิชชู่ สำหรับบางร้านจะมี biscuit เหมือนเป็น cracker ให้กินพร้อมซุปด้วยค่ะ เป็น complimentary ได้บรรยกาศมาก เพราะวันที่เราไปอากาศกำลังดี แดดอ่อน ๆ กับลมเย็น ๆ แต่ระวังนกมาขโมยอาหารนิสหนึงนะ 555
Credits to TripSavvy
เสียดายมาก เราไม่ได้ถ่ายรูปมา เลยต้องขอรูปจากคนอื่นมาให้ดูค่ะ
Credits to pearlspotting.com
Credits to elsaeats.com
Credits to travelandlifestylediaries.com
Suomenlinna Island
และใกล้ ๆ กับ Market Square ก็จะมีที่ซื้อตั๋วไปเกาะ Suomenlinna (ซัวเมนลินน่า) ที่เราจะนั่งเรือไปเ้ที่ยวกัน เกาะแห่งนี้มีความดังเรื่องประวัติศาสตร์ และธรรมชาติอันสวยงาม และเงียบสงบ
ข้อมูลจาก bktraveler บอกไว้ว่า ซัวเมนลินน่าคือเกาะมรดกโลก แห่งประเทศฟินแลนด์ ป้อมปราการแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1748 ซึ่งสมัยนั้นฟินแลนด์ยังเป็นของสวีเดนอยู่ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมสำหรับต่อสู้กับรัสเซีย โดยตัวป้อมอยู่บนหมู่เกาะใกล้ชายฝั่งทางตะวันออกของเฮลซิงกิ ต่อมาสวีเดนก็พ่ายแพ้และฟินแลนด์ก็ตกเป็นของรัสเซีย ป้อมแห่งนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของรัสเซีย
นั่งเรือไปได้เลยค่ะ มีหลายบริษัท ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10 ยูโร (ค่าเรือ) แต่ค่าเข้าฟรีค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็น package ประมาณว่าสามารถขึ้น ลง ได้ตามใจชอบ ตามท่าเรือที่เค้ากำหนด และหนึงในท่าเรือนั้นก็คือที่เราขึ้นจากเมือง เฮลซิงกิ ที่ชื่อว่า kauppatori ค่ะ
Sibelius Monument
ต่อมาเราก็ไปอนุสาวรีย์ซิเบลิอุส อันนี้เราขี่จักรยาน city bike ที่เช่าเอาข้างทางมา เรารู้สึกว่าไม่มีความคุ้มเลยค่าาา นอกจากกระอาทิตย์จะตก ถ่ายรุปไม่สวยแล้ว ระหว่างทางก็ไกลและขึ้นเขาบ้างลงเขาบ้าง จนทำให้เรามือถือตก หน้าจอแตกจ้า และของจริงไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้นด้วย
อะแต่ขออธิบายก่อน อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใน Sibelius Park ถูกสร้างขึ้นเพื่อสดุดีให้แก่นักประพันธ์
อะเอารูปมาจากคนอื่น เพราะเค้าถ่ายสวยกว่า คริคริ
Hietalahti Market Hall
Market Hall อันนี้คือหนึงในที่ที่คนขับรถเราแนะนำให้มาค่ะ แถมไม่ไกลจากบ้านเรา เค้าบอกต้องมาลองกิน เบอร์เกอร์ ดูนะ ของเค้าอร่อย เราไม่ใช้คนชอบกินอาหารฝรั่ง พวกเบอร์เกอร์ พิซซ่า ไรงี้ เฉยมาก ต่อะไปลองซะหน่อย เดินเข้าไปก็จะมีร้านอาหาร ร้านขายของทั่วไปค่ะ นอกจากมากินเบอร์เกอร์ เพื่อนเราก็ขอมาอีกรอบหนึงเพื่อกิน Poke Bowl อีกร้านที่น่าสนใจก็คือ MilkShake Bar และก็ Fat Ramen ค่ะ Market Hall แห่งนี้มี 2 ชั้น ชั้น 2 สำหรับนั่งกินโดยเฉพาะ
Credit to: Encirclephotos
Roslund
ที่นี้เป็นร้านขายเนื้อ ที่ทำเบอร์เกอร์ด้วย ที่นั่งก็มีไม่กีที่ค่ะ นั่งได้ประมาณ 5-6 คน เราไปก็มีคนมานั่งแล้ว ก็เลยอึดอัดนิดหน่อย พอเห็นเมนูก็ตกใจกับราคา เบอร์เกอร์อะไรวะตั้ง 700-800 บาท แต่ก็เอาวะ มาแล้ว สั่งไป อร่อยจริง ๆ ด้วย ขนาดเราไม่ชอบเบอร์เกอร์นะ เราว่ามันอร่อยมาก หอมเนื้อ และรสซอสทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยนเลย
Edit: เพิ่งไปเชค update มา ร้านนี้ permanently closed แล้วนะคะ เศร้าเลยย 😢
Esplanadi
ไม่มาสวนสาธารณะหลักใจกลางของเมืองอย่าง Esplanadi ก็คงจะไม่ได้ ถ้า New York มี Central park ที่นี้ก็มี Esplanadi ค่ะ ซึ่งโชคดีมาก ๆ ที่พักเราอยู่ตรงนี้เลย ออกมเดินนิดหน่อยก็เจอเลย เป็นแหล่งที่พักของคนเมือง ใกล้กับถนนช้อปปิ้ง และที่สำคัญในช่วงฤดูร้อน อากาศดี วะยรุ่นก็จะมานั่ง picnic กินข้าว ฟังเพลงกัน
Credits to beautifulhelsinki.wordpress.com & Expedia
นี่คือที่ที่คุณจะผ่อนคลายหรือปิคนิคได้อย่างสบายใจบนสนามหญ้าเขียวชะอุ่มร่มรื่น และยังเป็นพื้นที่จัดงานแสดงทางวัฒนธรรม แฟชั่นโชว์ หรือเทศกาลดนตรีใจกลางกรุงเฮลซิงกิ และตรงกลางจะต้องมาหารูปปั้นโยฮัน ลุดวิก รูนเบิร์ก (Johan Ludvig Runeberg) กวีเอกชาวฟินแลนด์-สวีดิชในศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นกวีประจำชาติฟินแลนด์ วอลเตอร์ รูนเบิร์กซึ่งเป็นบุตรของกวีรูนเบิร์กเป็นผู้สลักรูปปั้นนี้ขึ้นเองในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
Uspenski Cathedral
โบสถ์คริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์อันนี้เป็น icon ของเมืองหลวงนี้เลยก็ได้โบสถ์ได้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย
Löyly
Experience the Finnish Sauna
สำหรับอีกวันเราได้ใช้เวลาทั้งวันในการเดินเล่น และไปเปิดประสบการณ์กับซาวน่าสไตล์คนฟินแลนด์ค่ะ คนฟินแลนด์ชอบใช้เวลาว่างอยู่ในซาวน่าเพราะเป็นประเทศที่หนาว และด้วยความที่เราตอนแรกอยากไปกับ Feel the Nature tour หนึงที่ออกไปข้างนอก พาไปเดินเก็บผลไม้ในสวน ทำอาหารพื้นเมือง พร้อมซาวน่าในที่พักตากอากาศของคนท้องถิ่น แต่เสียดายที่ tour นางเต็ม นี้ขนาดถามก่อนตั้งเกือบครึ่งปี เสียใจมาก ก็เลยหาที่ใหม่ในการซาวน่า แบบที่อยู่ในเมือง จะได้ไม่เดินทางลำบาก เราก็เจอกับที่นี้ค่ะ
นี้คือระหว่างเดินไปซาวน่า จะมีวิวทะเลสวยมากกก คือคนฟินแลนด์จะชอบซาวน่าร้อน ๆ เสร็จลงน้ำเย็น ๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกันค่ะ เค้าบอกทำให้สุขภาพดี นี้ขนาดฤดูร้อนนะ น้ำเย็นมากกกกกกกก ประมาณ 15 องศา แบบถึงกระดูก ไม่อยากจะคิดว่าฤดูหนาวจะเป็นไง
เราไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเยอะเท่าไหร่เพราะวางกระเป๋ากับมือถือใน locker การจองก็ง่าย ๆ ค่ะ ไปที่เว็บนางและเลือกวันและเวลา เสร็จก็ไปเลย แนะนไให้ใส่ชุดว่ายน้ำใต้ชุดไปเลย จะมีที่เก็บของ และผ้าให้ 1 ผืนค่ะ นอกจากจะเป็นซาวน่าและยังเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ ที่ hangout สวย ๆ ที่หนึงของเมืองอีกด้วย
ถึงแม้นางจะรับลูกค้า walk-in แต่ถ้าเต็มก็ช่วยไม่ได้นะจ้า เลยแนะนำให้ถ้าตั้งใจจะไปก็จองไปเลย การจองเค้าจะคิดเป็น 2 ชั่วโมง จะใช้ได้ทั้งซาวน่าและเค้าจะมีให้ลงทะเลได้ด้วย ราคาอยู่ที่ 19 ยุโรค่ะ
เอารูปมาจากเว็บค่ะ
Credit to: Loyly
Credit to: Loyly
Credit to: Loyly
Credit to: Loyly
Credit to: Loyly
Porvoo
Fall in love with the idyllic medieval town
อีกวันเริ่มเบื่อ เลยตัดสินใจนั่งรถไปเมืองเล็ก ๆ ใกล้ ๆ อย่างพอร์วูค่ะ เอาจริง ๆ ก็เฉย ๆ รู้งี้ไม่มาดีกว่า ไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เมืองเก่าที่อื่นสวยกว่า อันนี้เดินทางแปปเดียว ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงค่ะ
ที่ ๆ ไปขึ้นรถก็อยู่ที่ Kamppi ค่ะ ซึ่งเป็นชั้นล่างของห้าง Kamppi Center ค่ะ
Credits to discoveringfinland.com
ขาไปราคาอยู่ที่ 9 ยุโร ขากลับแพงหน่อยอยู่ที่ราคา 14.50 ยุโร การจองก็ทำเหมือนเดิม google ค่าา และก็เทียบราคาว่าอันไหน เวลาไหนดีกว่ากัน และก็ค่อยใช้การ์ดจ่าย พอไปถึง bus station ก็ดูบริษัทรถเรา และเวลา และเค้าก็จะบอกว่าให้ไปป้ายไหน เบอร์ไหน ก็ไปตามเลยค่ะ
ขากลับแอบหลงนิดหนึง เพราะรถไม่ได้มารับที่เดิมกับที่ส่ง และไม่มีคนในสถานีเลย เป็นเมืองที่เงียบและเล้กมากจริง ๆ เกือบจะหาไม่เจอ แต่ดีนะ ทุกคนจะขึ้นรถกลับหมด เลยพอเดาออก
เมืองก็จะเป็นเมืองเล็ก ๆ ค่ะ เรามากินข้าวเที่ยง และเดินเที่ยวนิด ๆ หน่อย
บ้านเรือนมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์โดยส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้และอิฐบล็อกมีสีสันสดใส เหมือนเมืองต่างจังหวัดของชาวประมงยังไงยังงั้น
นางดังเรื่องบ้านสีแดง ๆ ใกล้แม่น้ำอันนี้ก็เลยมาถ่ายรูปซะหน่อยย
จบแล้วววว ฟินแลนด์ ถึงเวลาย้ายที่เที่ยวกันนน หลังจากนี้ก็เป็นสวีเดนค่ะ เดียวเราจะไปไหนบ้างมาดูกันนะ เพราะหลังจากนี้เพื่อนไทยเราที่เที่ยวด้วยกันมาตั้งแต่รัสเซียจะขอลากลับบ้านกันก่อน และเราจะเดินทางไปหาเพื่อนฝรั่งที่ลิทัวเนียคนเดียวค่ะ
เรียบเรียงโดย ohmissannabella.com